เกี่ยวกับโครงการ
.
ที่มาและความสําคัญ
กลุ่มชาติพันธุ์ไทขึนเป็นกลุ่มชาติพันธุ์หนึ่งในอาเซียนที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน ปัจจุบันกลุ่มชาติ พันธุ์ไทขึนมีถิ่นพํานักอยู่อาศัยใน 3 ประเทศคือ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ประเทศไทย และสาธารณรัฐ ประชาธิปไตยประชาชนลาว (Simons, Gary F. and Charles D. Fennig, 2018; Joshua Project, 2018) ชาติพันธุ์ไทขึนมีภูมิปัญญาด้านการดูแลรักษาสุขภาพที่น่าสนใจและน่าศึกษา เพราะใช้การรักษาแบบท้องถิ่นใน ลักษณะของการรักษาแบบองค์รวม โดยมีมุมมองต่อสุขภาพความเจ็บป่วยทางกายและทางจิตใจในลักษณะที่ ไม่ได้แยกจากกัน ความเจ็บป่วยที่มีอาการต่างกันหรือเป็นโรคต่างกัน อาจจะมีสาเหตุเดียวกัน และมีวิธีการเยียวยารักษาแบบเดียวกัน โดยวิธีการเยียวยาความเจ็บป่วยอาจจะใช้มากกว่าหนึ่งวิธี เนื่องจากต้องมีการเยียวยาทั้งทางร่างกายและจิตใจไปพร้อม ๆ กัน (กรด เหล็กสมบูรณ์, 2560) กล่าวได้ว่า การดูแลรักษาแบบ องค์รวมเป็นการยึดเอาผลสัมฤทธิ์ของการดูแลรักษาเป็นหลัก โดยใช้วิธีการดูแลรักษาหลายๆ วิธี ทั้งการดูแล รักษาร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ ไม่ได้เน้นการรักษาด้วยวิธีการใดวิธีเดียว ดังที่ยิ่งยง เทาประเสริฐ (2546) นําเสนอวิธีการดูแลสุขภาพของคนในสังคมภาคเหนือไว้ 4 วิธีการ ได้แก่ พิธีกรรม กายบําบัด สมุนไพร และ อาหารการกิน นอกจากนี้การศึกษาแบบแผนการรักษาความเจ็บป่วยในสังคมภาคเหนือของไทย ของอานันท์ กาญจนพันธุ์ (2555) ยังกล่าวถึงการเลือกรับการรักษาพยาบาลว่า ชาวบ้านไม่ได้ปักใจเลือกการรักษาแบบหนึ่ง แบบใดเพียงวิธีเดียว แต่ชาวบ้านได้พยายามลองรักษาทุกวิถีทาง ทั้งการรักษาตามแบบแพทย์สมัยใหม่และแบบ พื้นบ้าน
อย่างไรก็ตามสภาพการเปลี่ยนแปลงในสังคมโลกปัจจุบันโดยเฉพาะการแพทย์สมัยใหม่ได้มีบทบาทมา ช่วยเยียวยารักษาสุขภาพของผู้คนให้มีสุขภาพดีมากขึ้น ส่งผลให้ภูมิปัญญาดังกล่าวกําลังจะถูกลืมเลือนและสูญ หายไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งภูมิปัญญาการดูแลรักษาสุขภาพของกลุ่มชาติพันธุ์ไทขึ้นของแต่ละประเทศใน อาเซียนนั้น ถือเป็นแหล่งข้อมูลที่สําคัญประการหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงสภาพชีวิต ความเชื่อ วิถีความเป็นอยู่ ของผู้คนในอดีตที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ การรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ได้อย่างดี ทั้งการรักษาด้วยพิธีกรรม (เช่น การสะเดาะเคราะห์ สืบชะตา) การรักษาด้วยกายบําบัด (เช่น การนวด การบีบ การอบไอน้ำ รวมควัน) การรักษาด้วยอาหารและสมุนไพร (เช่น ยาลูกกลอน ยาผง)
ดังนั้นการศึกษาข้อมูลดังกล่าวข้างต้นจะทําให้ทราบถึงภูมิปัญญาการดูแลรักษาสุขภาพของกลุ่มชาติ พันธุ์ไทขึ้น และทราบถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อภูมิปัญญาการดูแลรักษาสุขภาพของกลุ่มชาติพันธุ์ไทขึ้นในประเทศ ไทย สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งสามารถเป็นแนวทางใน การจัดการองค์ความรู้และภูมิปัญญาการดูแลรักษาสุขภาพของกลุ่มชาติพันธุ์ไทขึ้นมาสู่การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และประยุกต์ใช้งานให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมต่อไป
วัตถุประสงค์ของโครงการ
เพื่อการศึกษาภูมิปัญญาการดูแลรักษาสุขภาพของกลุ่มชาติพันธุ์ไทขึนในประเทศไทย สาธารณณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ และสาธารณรัฐประชาชนลาว
เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อภูมิปัญญาการดูแลรักษาสุขภาพของกลุ่มชาติพันธุ์ไทขึนในประเทศไทย สาธารณณํบแห่งสหภาพเมียนมาร์ และสาธารณรัฐประชาชนลาว
เพื่อจัดทำระเบียนข้อมูลกลุ่มชาติพันธุ์ไทขึนในประเทศไทย
เพื่อพัฒนาคลังข้อมูลดิจิทัลภูมิปัญญาการดูแลรักษาสุขภาพของกลุ่มชาติพันธุ์ไทขึนในประเทศไทย
